อยางกวดขัน เพราะเหตุที่มีเจาแผนดินเมืองใกลเคียงมาลัก ตักน้ำไปกระทำอภิเษก จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ พรเจากาวิโลรส เปนพรเจาขึ้นใหมๆ ไดใหมาลักน้ำสี่สระนี้ขึ้นไปทำอภิเศกเปน ขอหนึ่งในคำที่ตองหาวาเปนขบถ “ลัทธิที่ถือน้ำสระเปนน้ำอภิเษกนี้ ปรากฏชัดวา เปนตำรา พราหมณเชนกับมหาภาระตะ อรชุณตองไปเที่ยวปราบปราม เมืองทั้งปวง แลสรงน้ำในสระที่เมืองนั้นหามหวงตลอดจนถึง สระในปาพรหิมพานตเปน ๖๔,๖๕ สระ จึงไดมาทำอัศวเมศ ซึ่งเปนพิธีสำหรับเปนจักรพรรดิ แตเหตุไฉนที่สี่สระนี้จึงขลังนัก ไมปรากฏ คงจะมีตัวครูบาที่สำคัญเปนที่นับถือทั่วไป มาขุดสระ แลมาผูกเวทมนตไวอยางหนึ่งอยางใด ราษฎรในเมืองนี้มี ความกลัวเกรงเปนอันมาก น้ำในสระก็ไมใช ปลาในสระก็ไมกิน มีหญาขึ้นรกเต็มอยูในสระ มีจรเขอยูทั้งสี่สระ ไดทราบมาแรก ที่ทูลกระหมอมรับสั่งวาน้ำทวมถึง แตเวลานี้ซึ่งเปนเวลาน้ำมาก พอปริ่มๆ ไมทวม เห็นจะเปนบางปจึงจะทวม แตน้ำลนขอบสระ ทางที่เดินตองพูนขึ้นหนอยหนึ่งแตกระนั้นก็ชื้นๆ นาจะทวม ไดจริง น้ำสระคา สระยมนาไมสูสอาดมีสีแดง แตน้ำสระแกว สระเกษใสสอาด “ไดหยุดบวงสรวงแลตักน้ำแลวขึ้นไปกินเขา พรยาสุนทร บุรีเลี้ยงที่บนคันดิน ชาวสุพรรณอยูขางจะ เปนคนนับถือ เจานายจัด นับถือบูชาอธิฐานไดจะถวายอไรเจาดูเหมือนจะ ไดบุญที่สุดจนเสื่อที่สานมาสำหรับใหนั่งก็มีคำอธิฐานติด ใกลไปขางพรพุทธเจามากกวาอยางอื่น “เมื่อวานนี้มีผูหญิงแกคนหนึ่งลงเรือ มีตนไมตั้งมาในเรือ พายตามมา แตไมไดชอง พึ่งมาไดชองวันนี้ นำตนไมนั้นเขามา ใหเปนตนโพ ถามวาเหตุใดจึงไดเอาตนโพนี้มาให บอกวา ตนโพนี้เกิดขึ้นที่ทานไมเขาใจถามวาเหตุไรจึงวาเชนนั้น บอกวา ไดไปซื้อทานที่อยูในกระจกไปติดไวที่เรือน ตนโพก็งอกขึ้นบน หลังหีบที่ตรงรูปนั้นเปน ๗ ตน จึงไดเอากากมพราวแลดินมา ประกอบเขาไว สูงถึง ๒ ศอกเศษ พอเสด็จจึงไดนำมาให เห็นวาเขาทีดีอยู จึงไดใหเอาไปดวย ไดแยกออกเปนตนปลีก ๓ ตน รวมเปนกอ ๔ ตนไวกอหนึ่ง ปลูกประจำสระทั้งสี่เปน ที่รฤกวาไดขึ้นไปถึงทั้งสี่นั้น...”
แนวคันดินใกลกับสระเกษ ดานลางมีฐานอาคารกอดวยอิฐ แตเจดียดานบนเปนสิ่งกอสรางใหม
“... ที่สระนั้นมีสัญฐานตางๆ อยูอยางไมเปนระเบียบ ตรงทางที่ขึ้นไปถึงสระคากอน สระยมนาอยูขางเหนือ สระแกว อยูตวันตกเกือบจะตรงกับสระคา สระเกษอยูขางใตแนวเดียว กับสระแกว แลเห็นปรากฏวาเปนสระที่ขุด มีเจดียซึ่งวามีพร รูปหนึ่ง ไลเลียงเอาชื่อไมได ไปกอเสริมฐานของเกา ที่สระคา แหงหนึ่ง สระยมนาแหงหนึ่ง ที่สระแกวเปนศาลเจา ที่ซึ่งสำหรับ บวงสรวงกอนตักน้ำสรง แตที่สระเกษนั้นมีคันดินสูงยาวไปมาก ที่บนนั้นมีรากกอพื้นดินสูงจะเปนเจดียมณฑป ซึ่งถูกแกแต ไมสำเร็จ สงไสยวาที่เหลานี้นาจะเปนเทวสถานมิใชวัด สระที่ ขุดไวเหลานี้เปนสระสำหรับพราหมณลงชุบน้ำ ใหผาเปยกเสีย กอนที่จะเขาไปมัสการตามลัทธิสาศนาพราหมณ จึงจะไดเปน สระที่ศักดิ์สิทธิ์ คันดินที่กลาวนี้วามียาวไปมาก นาจะเปนถนน ถึงเมืองเกา ที่นี่นาจะเปนเทวสถานวัดพราหมณที่ศักดิ์สิทธิ์ แหงหนึ่งมาแตสุพรรณเกา จึงไดใชน้ำนี้เปนน้ำอภิเษกสืบมา แตโบราณ กอนพรพุทธสาศนามาประดิษฐานในประเทศแถบนี้ มีเรื่องที่เกี่ยวถึงหลายเรื่อง เชนพรเจาประทุมสุริวงษ เปนเจาที่ เกิดในดอกบัว มาแตประเทศอินเดีย อันเปนเจาแผนดินที่ ๑ ที่ ๒ ในวงษพรอินทรที่ครองกรุงอินทปถพรนครหลวงเจา ของพรนครวัด กอนพุทธสาศนากาลจะราชาภิเศกตองใหมา ตักน้ำสี่สระนี้ไป แลในการพรราชาพิธีอภิเศกตางๆ ตองใชน้ำ สี่สระนี้ พรเจาสินธพอมรินทรพรยาแกรกราชาภิเศก กรุงละโว ประมาณ ๑๔๐๐ ปก็วาใชน้ำสี่สระนี้ราชาภิเศก พรเจาอรุณ มหาราชกรุงศุโขทัยจะทำการราชาภิเศกก็ตองลงมาตีเมือง เหลานี้ใหอยูในอำนาจ แลวจึงตักน้ำไปราชาภิเศก จึงเปน ธรรมเนียมเจาแผนดินสยามทุกพระองค สรงมุรธาภิเศกแรก เสวยราชแลตลอดมาดวยน้ำสี่สระนี้ มีเลขประจำเฝาสระรักษา
Powered by FlippingBook