Quarter 1/2014

อย างกวดขั น เพราะเหตุ ที่ มี เจ าแผ นดิ นเมื องใกล เคี ยงมาลั ก ตั กน้ ำไปกระทำอภิ เษก จนกระทั่ งเมื่ อเร็ วๆนี้ พรเจ ากาวิ โลรส เปนพรเจ าขึ้ นใหม ๆ ได ให มาลั กน้ ำสี่ สระนี้ ขึ้ นไปทำอภิ เศกเปน ข อหนึ่ งในคำที่ ต องหาว าเปนขบถ “ลั ทธิ ที่ ถื อน้ ำสระเปนน้ ำอภิ เษกนี้ ปรากฏชั ดว า เปนตำรา พราหมณ เช นกั บมหาภาระตะ อรชุ ณต องไปเที่ ยวปราบปราม เมื องทั้ งปวง แลสรงน้ ำในสระที่ เมื องนั้ นห ามหวงตลอดจนถึ ง สระในป าพรหิ มพานต เปน ๖๔,๖๕ สระ จึ งได มาทำอั ศวเมศ ซึ่ งเปนพิ ธี สำหรั บเปนจั กรพรรดิ แต เหตุ ไฉนที่ สี่ สระนี้ จึ งขลั งนั ก ไม ปรากฏ คงจะมี ตั วครู บาที่ สำคั ญเปนที่ นั บถื อทั่ วไป มาขุ ดสระ แลมาผู กเวทมนต ไว อย างหนึ่ งอย างใด ราษฎรในเมื องนี้ มี ความกลั วเกรงเปนอั นมาก น้ ำในสระก็ ไม ใช ปลาในสระก็ ไม กิ น มี หญ าขึ้ นรกเต็ มอยู ในสระ มี จรเข อยู ทั้ งสี่ สระ ได ทราบมาแรก ที่ ทู ลกระหม อมรั บสั่ งว าน้ ำท วมถึ ง แต เวลานี้ ซึ่ งเปนเวลาน้ ำมาก พอปริ่ มๆ ไม ท วม เห็ นจะเปนบางป จึ งจะท วม แต น้ ำล นขอบสระ ทางที่ เดิ นต องพู นขึ้ นหน อยหนึ่ งแต กระนั้ นก็ ชื้ นๆ น าจะท วม ได จริ ง น้ ำสระคา สระยมนาไม สู สอาดมี สี แดง แต น้ ำสระแก ว สระเกษใสสอาด “ได หยุ ดบวงสรวงแลตั กน้ ำแล วขึ้ นไปกิ นเข า พรยาสุ นทร บุ รี เลี้ ยงที่ บนคั นดิ น ชาวสุ พรรณอยู ข างจะ เปนคนนั บถื อ เจ านายจั ด นั บถื อบู ชาอธิ ฐานได จะถวายอไรเจ าดู เหมื อนจะ ได บุ ญที่ สุ ดจนเสื่ อที่ สานมาสำหรั บให นั่ งก็ มี คำอธิ ฐานติ ด ใกล ไปข างพรพุ ทธเจ ามากกว าอย างอื่ น “เมื่ อวานนี้ มี ผู หญิ งแก คนหนึ่ งลงเรื อ มี ต นไม ตั้ งมาในเรื อ พายตามมา แต ไม ได ช อง พึ่ งมาได ช องวั นนี้ นำต นไม นั้ นเข ามา ให เปนต นโพ ถามว าเหตุ ใดจึ งได เอาต นโพนี้ มาให บอกว า ต นโพนี้ เกิ ดขึ้ นที่ ท านไม เข าใจถามว าเหตุ ไรจึ งว าเช นนั้ น บอกว า ได ไปซื้ อท านที่ อยู ในกระจกไปติ ดไว ที่ เรื อน ต นโพก็ งอกขึ้ นบน หลั งหี บที่ ตรงรู ปนั้ นเปน ๗ ต น จึ งได เอากากมพร าวแลดิ นมา ประกอบเข าไว สู งถึ ง ๒ ศอกเศษ พอเสด็ จจึ งได นำมาให เห็ นว าเข าที ดี อยู จึ งได ให เอาไปด วย ได แยกออกเปนต นปลี ก ๓ ต น รวมเปนกอ ๔ ต นไว กอหนึ่ ง ปลู กประจำสระทั้ งสี่ เปน ที่ รฤกว าได ขึ้ นไปถึ งทั้ งสี่ นั้ น...”

แนวคั นดิ นใกล กั บสระเกษ ด านล างมี ฐานอาคารก อด วยอิ ฐ แต เจดี ย ด านบนเป นสิ่ งก อสร างใหม

“... ที่ สระนั้ นมี สั ญฐานต างๆ อยู อย างไม เปนระเบี ยบ ตรงทางที่ ขึ้ นไปถึ งสระคาก อน สระยมนาอยู ข างเหนื อ สระแก ว อยู ตวั นตกเกื อบจะตรงกั บสระคา สระเกษอยู ข างใต แนวเดี ยว กั บสระแก ว แลเห็ นปรากฏว าเปนสระที่ ขุ ด มี เจดี ย ซึ่ งว ามี พร รู ปหนึ่ ง ไล เลี ยงเอาชื่ อไม ได ไปก อเสริ มฐานของเก า ที่ สระคา แห งหนึ่ ง สระยมนาแห งหนึ่ ง ที่ สระแก วเปนศาลเจ า ที่ ซึ่ งสำหรั บ บวงสรวงก อนตั กน้ ำสรง แต ที่ สระเกษนั้ นมี คั นดิ นสู งยาวไปมาก ที่ บนนั้ นมี รากก อพื้ นดิ นสู งจะเปนเจดี ย มณฑป ซึ่ งถู กแก แต ไม สำเร็ จ สงไสยว าที่ เหล านี้ น าจะเปนเทวสถานมิ ใช วั ด สระที่ ขุ ดไว เหล านี้ เปนสระสำหรั บพราหมณ ลงชุ บน้ ำ ให ผ าเป ยกเสี ย ก อนที่ จะเข าไปมั สการตามลั ทธิ สาศนาพราหมณ จึ งจะได เปน สระที่ ศั กดิ์ สิ ทธิ์ คั นดิ นที่ กล าวนี้ ว ามี ยาวไปมาก น าจะเปนถนน ถึ งเมื องเก า ที่ นี่ น าจะเปนเทวสถานวั ดพราหมณ ที่ ศั กดิ์ สิ ทธิ์ แห งหนึ่ งมาแต สุ พรรณเก า จึ งได ใช น้ ำนี้ เปนน้ ำอภิ เษกสื บมา แต โบราณ ก อนพรพุ ทธสาศนามาประดิ ษฐานในประเทศแถบนี้ มี เรื่ องที่ เกี่ ยวถึ งหลายเรื่ อง เช นพรเจ าประทุ มสุ ริ วงษ เปนเจ าที่ เกิ ดในดอกบั ว มาแต ประเทศอิ นเดี ย อั นเปนเจ าแผ นดิ นที่ ๑ ที่ ๒ ในวงษ พรอิ นทร ที่ ครองกรุ งอิ นทป ถพรนครหลวงเจ า ของพรนครวั ด ก อนพุ ทธสาศนากาลจะราชาภิ เศกต องให มา ตั กน้ ำสี่ สระนี้ ไป แลในการพรราชาพิ ธี อภิ เศกต างๆ ต องใช น้ ำ สี่ สระนี้ พรเจ าสิ นธพอมริ นทรพรยาแกรกราชาภิ เศก กรุ งละโว ประมาณ ๑๔๐๐ ป ก็ ว าใช น้ ำสี่ สระนี้ ราชาภิ เศก พรเจ าอรุ ณ มหาราชกรุ งศุ โขทั ยจะทำการราชาภิ เศกก็ ต องลงมาตี เมื อง เหล านี้ ให อยู ในอำนาจ แล วจึ งตั กน้ ำไปราชาภิ เศก จึ งเปน ธรรมเนี ยมเจ าแผ นดิ นสยามทุ กพระองค สรงมุ รธาภิ เศกแรก เสวยราชแลตลอดมาด วยน้ ำสี่ สระนี้ มี เลขประจำเฝ าสระรั กษา

Powered by