อายุราว พ.ศ. ๖๐๐ ในตำบลพงตึก อำเภอทามะกา จังหวัด กาญจนบุรี (ปจจุบัน จัดแสดงอยูที่พิพิธภัณฑสถานแหงชาติ พระนคร) สันนิษฐานวาเปนตะเกียงที่หลอขึ้นจากประเทศอียิปต สมัยที่ถูกปกครองโดยโรมัน และนำเขามาโดยพอคาอินเดีย เนื่องจากตำบลพงตึก เปนเสนทางการคาขายที่ชาวอินเดียใช ตะเกียงที่ใชกันแตโบราณของไทยนั้น เราเรียกวา “ประทีป” โดยเริ่มแรกเปนตะเกียงที่ทำจากเครื่องปนดินเผา มีรูปทรงงายๆ คลายถวยสำหรับใสน้ำมัน และมีพวยสำหรับสอดไสซึ่งทำดวย ดายดิบหลายเสนฟนเขาไวดวยกัน ในหนังสือ วชิรญาณวิเศษ ซึ่งมีการบันทึกเรื่อง “ประทีปโคมไฟ” โดยหมอมเจาประภากร ไดกลาวถึงการใชตะเกียงวาคนไทยโบราณใชตะเกียงน้ำมันมะพราว น้ำมันปลา เปนสวนใหญ จนกระทั่งเมื่อชาวตางชาติเขามาและ นำเทียนไขมาขาย จึงทำใหคนไทยรูจักเทียนไขและไดกลายเปน ของใชที่นิยมกันไปทั่วทุกบานเรือน และเมื่อสยามเปดประตูบานรับชาวตะวันตก สิ่งประดิษฐ สมัยใหมก็พากันเดินพาเหรดเขามาใหชาวสยามไดทำความรูจัก เลือกใช และแนนอน หนึ่งในของใชที่จำเปนเหลานั้นยอมมี “ตะเกียง” รวมอยูดวย โดยการเขามาของ “น้ำมันกาด” ทำให ชาวไทยไดรูจักกับ “ตะเกียงเจาพายุ” ตะเกียงที่ใชน้ำมัน จุดไสใน ครอบแกว เมื่อเผาไสแลว สูบลมใหดันน้ำมันเปนไอขึ้นไปเลี้ยง ทำใหเกิดแสงสวางนวลจา ธุรกิจการนำเขาน้ำมันกาดสูสยามประเทศนั้นเริ่มตนในสมัย รัชกาลที่ ๕ ซึ่งหนึ่งในบริษัทตางชาติที่นำเขาน้ำมันกาด คือ บริษัท แสตนดารดออยลแหงนิวยอรก เขามาเปดสาขาในประเทศ ไทย เมื่อป พ.ศ. ๒๔๓๗ โดยตั้งอยูที่ตรอกกัปตันบุช น้ำมันกาด ที่บริษัทฯ นำเขามาจำหนายคือ น้ำมันกาดตราไก และตรานกอินทรี และนับจากวันนั้นมา บริษัท แสตนดารดออยลแหงนิวยอรก ก็อยูคูกับชาวไทยมาตลอด โดยมีการปรับเปลี่ยนชื่อบริษัทไปตาม ธุรกิจที่เติบโตอยางมั่นคง พรอมรวมสงเสริมคุณภาพชีวิตชาวไทย ไปกับการพัฒนาประเทศ หลังจาก โธมัส เอดิสัน ไดจดทะเบียนสิทธิบัตรหลอดไฟฟา นับจากนั้น โลกก็เขาสูยุคแสงสวาง มนุษยกลับกลายมาเปนสัตวโลก ที่กลัวความมืดมิด และ “ตะเกียง” ก็กลายเปนของเลนราคาแพง ซึ่งรวมทั้งกระปองน้ำมันกาด ตราไก ที่ยังพอมีใหซื้อหากันเฉพาะ กลุมผูนิยมของเกาเทานั้น
จนเมื่อโลกเขาสูยุคสมัยใหม มีการขุดพบน้ำมันปโตรเลียม จากพื้นดิน ประดิษฐกรรมตะเกียงก็รุดหนาขึ้นเรื่อยๆ มีการจด ทะเบียนตะเกียงมากมายหลายรอยแบบในชวงป พ.ศ. ๒๔๐๓ – ๒๔๒๓ (เทียบเทาสมัยรัชกาลที่ ๔ และ ๕ ของไทย) และแบบหนึ่ง ที่รูจักกันดีไปทั่วโลก คือ “ตะเกียงเจาพายุ” ซึ่งไมเพียงนำไปใช ในบานเรือน แตยังใชเปนโคมไฟหอยตามถนน รวมถึงประภาคาร เพื่อสองแสงเตือนภัยถึงหินโสโครกใหเหลาเรือที่ลองในมหาสมุทร คนไทยกับตะเกียง ชวงเวลาที่อารกองด คิดประดิษฐตะเกียงซึ่งถือเปนตนแบบ ตะเกียงสมัยใหม ตรงกับรัชกาลที่ ๑ สมัยกรุงรัตนโกสินทร แตคนไทยรูจักตะเกียงมาแตโบราณเชนเดียวกับคนชาติอื่นๆ หนึ่งในหลักฐานที่ยืนยันไดคือ การขุดพบตะเกียงโรมันสัมฤทธิ์
ขอขอบคุณ
- พิพิธภัณฑอยูสุขสุวรรณ คุณณรงค อยูสุขสุวรรณ - คุณกาญนฏิมา วงษดี
Powered by FlippingBook