Quarter 1/2015

เจดียดานซายมือ เปนเจดียมอญ โดยมีสวนลาง เปนฐานทักษิณที่มีกำแพงเตี้ยๆ ลอมรอบ ดานบน สวนกลางทำเปนองคระฆังที่มีรูปลักษณะที่แปลกตา คลายกับผลมะเฟองที่ทำเปนพูเรียวยาว โดยมีเสนลวด รัดคั่นอยูแบงพูดังกลาวออกเปนสองชั้น รูปแบบของ เจดียองคนี้ถือเปนลักษณะพิเศษของวัดเสาธงทอง ที่ยัง ไมเคยพบในที่แหงอื่น สวนเจดียดานขวามือ สรางเปนเจดียทรงระฆังกลม ที่มีฐานทักษิณอยูดานลาง ตอดวยฐานปทมกลมรองรับ มาลัยลูกแกวสามชั้น ตอดวยทรงระฆังกลม มีบัลลังก รองรับปลองไฉนสูงเพรียวขึ้นไป เมื่อพิจารณาจากรูปทรงสถาปตยกรรมของเจดีย ทั้งคู สันนิษฐานวา นาจะสรางขึ้นในราวสมัยรัชกาลที่ ๔ เปนตนมา ซึ่งสอดคลองกับขอมูลทางประวัติศาสตร ที่กลาวถึง การบูรณะครั้งใหญของวัดแหงนี้ เมื่อครั้ง รัชสมัยดังกลาว อุโบสถและวิหารนอย : ปูชนียสถานสำคัญของวัด ถัดจากเจดียคูเขาไป จะเปนที่ตั้งของอุโบสถที่มี กำแพงแกวลอมรอบ ภายในกำแพงแกว มีอุโบสถเปน ประธานหันหนาไปทางทิศตะวันออก ดานหนามีวิหาร- นอยตั้งขวางอยูหนึ่งหลัง หันหนาไปทางทิศเหนือ เขาสูลำน้ำเจาพระยา ซึ่งเปนคติเดิมของพุทธศาสนิกชน ที่นิยมหันหนาวัดเขาสูแมน้ำหรือเสนทางสัญจรใน ขณะนั้น อุโบสถ เปนอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผาขนาด หาหอง มีหลังคาซอนลด ๒ ชั้น เดิมทำเปนพะไลคลุม ชาลาทั้งดานหนาและหลัง ภายในอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธรูปปางมารวิชัยเปนประธานของอาคาร พระประธานองคนี้ถือกันวามีขนาดใหญที่สุดในเกาะเกร็ด อุโบสถหลังนี้ สันนิษฐานวาคงสรางมาตั้งแตสมัยอยุธยา ตอนปลายหรือตนรัตนโกสินทร แตมีการบูรณะซอมแซม สืบตอกันมาหลายครั้ง โดยเฉพาะการซอมแซมใหญ เมื่อครั้งสมัยรัชกาลที่ ๗ โดยพระเจาบรมวงศเธอ พระองคเจาคำรพ (บิดาของ พลตรี มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) ไดซอมพระประธานพรอมฐานพระดวยการปดทอง ประดับกระจกใหม และตอมาเมื่อ ป พ.ศ.๒๕๑๕ ไดมี การปฏิสังขรณอุโบสถอีกครั้ง และเปลี่ยนพะไลหนา-หลัง ทำเปนมุขแทน ดังเชนที่ปรากฏใหเห็นในปจจุบัน

ภูมิประวัติ...วัดเสาธงทอง

วัดเสาธงทอง ตั้งอยูริมฝงแมน้ำเจาพระยาดาน ทิศเหนือของเกาะเกร็ด ในเขตหมูที่ ๖ ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยหากใชเสนทาง เดินเทาลัดเลาะมาจากวัดปรมัยยิกาวาส ประมาณ ๗๐๐ เมตร เมื่อผานวัดไผลอมไปเพียงเล็กนอย ก็จะถึง วัดเสาธงทองซึ่งเปนจุดหมายในการเยี่ยมชมในครั้งนี้ วัดนี้ สันนิษฐานวา นาจะสรางขึ้นมาตั้งแตสมัย อยุธยาตอนปลายแลว โดยเปนวัดที่กลุมชาวมอญที่ อพยพมาตั้งแตสมัยอยุธยา-ธนบุรี ไดชวยกันสรางขึ้น เลากันวาแตเดิมพื้นที่นี้มีตนหมากขึ้นหนาแนน ชาวบาน จึงเรียกกันโดยทั่วไปวา “วัดสวนหมาก” สวนชาวมอญ นิยมเรียกกันวา “เพี้ยอะลาต” ซึ่งแปลวา “วัดตะวันตก” อันเนื่องจากถือวาเปนวัดสุดทายที่อยูดานตะวันตกของ เกาะเกร็ด วัดนี้คงมีการบูรณะซอมแซมสืบตอกันมา หลายครั้ง โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีประวัติวา เจาจอมมารดาอำภา ในรัชกาลที่ ๒ พรอมดวยกรมหมื่น ภูบาลบริรักษ และกรมขุนวรจักรธารานุภาพ ไดรวมกัน บูรณะวัดแหงนี้ และเปลี่ยนนามวัดเปน “วัดเสาธงทอง” ตอมา เมื่อราวป พ.ศ. ๒๔๕๖ เจาจอมมารดามรกฎ (พ.ศ. ๒๓๙๘-๒๔๕๘) ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอม- เกลาเจาอยูหัว ไดมาบำเพ็ญกุศล และปฏิบัติธรรม อยูที่วัดนี้เปนประจำ จึงไดบูรณะพระอารามแหงนี้อีก ครั้งหนึ่ง เมื่อเดินผานเขาไปทางดานหนาวัด จะแลเห็นเจดีย ตั้งอยูคูกันดานขางของอุโบสถ เจดียทั้งสององคนี้ ผลจากการขุดแตงทางโบราณคดี พบวามีฐานลางอยูใน ระดับเดียวกัน จึงสันนิษฐานไดวา นาจะสรางขึ้นในระยะ เวลาใกลเคียงกัน เจดียคูหนาอุโบสถ : ความงดงามที่แปลกตา

Powered by