Quarter 1/2013

ตนกลาที่งอกจากเมล็ดเจริญเติบโตชามาก ดังนั้นวิธีการขยายพันธุ ที่เหมาะสมของมะลิเฉลิมนรินทร คือการปกชำกิ่ง ที่สามารถปกชำ ใหออกรากไดดีทั้งกิ่งออนและกิ่งแก เมื่อนำมาปลูกเลี้ยงเปนไม ประดับ ชอบดินปลูกที่มีอินทรียวัตถุหรือปุยคอก มีความชุมชื้น ปานกลางและชอบแสงแดดจัด และที่พิเศษคือ ตองทำซุมให เลื้อยไต จึงจะออกดอกไดสวยงาม ไมวาจะปลูกลงกระถาง หรือลงแปลงกลางแจง สามารถปรับตัวเจริญเติบโตเปนไม ประดับอยูนอกถิ่นกำเนิดเดิมไดดี ดังนั้นเทคนิคการขยายพันธุ และการปลูกเลี้ยงเปนไมดอกไมประดับ จึงเปนความหวัง ในการอนุรักษมะลิถิ่นเดียวที่หายากและใกลสูญพันธุชนิดนี้ไดอยาง ยั่งยืน ลักษณะทั่วไปของมะลิเฉลิมนรินทร เปนไมเถาเลื้อยไดไกล ๑-๒ เมตร กิ่งยอดเรียวเล็ก เรียบ ใบรูปรีหนาเหนียวสีเขียวเขม เปนมัน ชอดอกออกที่ปลายกิ่งยอดหรือปลายกิ่งขาง มีดอกยอย ๗-๑๓ ดอก กลีบเลี้ยง แหลม หนาแข็งขนาดใหญจำนวน ๔-๕ ซี่ หลอดกลีบดอกยาว ๑๒-๑๕ มิลลิเมตร กลีบดอกสีขาว ๖-๘ กลีบ แตละกลีบกวาง ๓-๔ มิลลิเมตร เมื่อดอกยอยบานมีเสนผาน- ศูนยกลางของดอก ๒.๕ เซนติเมตร ผลกลมรี ๑ ผล เมื่อสุกสีดำ เปนมะลิที่เจริญเติบโตชาเมื่อเทียบกับมะลิชนิดอื่นๆ ในถิ่นกำเนิด ออกดอกบานในชวงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน สงกลิ่นหอมแรง

มะลิเฉลิมนรินทร เปนพรรณไมถิ่นเดียวของไทย คือมีถิ่น กำเนิดและกระจายพันธุตามธรรมชาติอยูเฉพาะในประเทศไทย เทานั้น ไมมีขึ้นอยูในประเทศอื่น มีสถานภาพในถิ่นกำเนิดตาม ธรรมชาติเปนพรรณไมที่หายากและใกลสูญพันธุ แหลงที่พบบน ภูเขาหินปูนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สามารถขยายพันธุ ไดทั้งการเพาะเมล็ดและการปกชำกิ่ง สวนการตอนกิ่งจะมีโอกาส ทำไดนอยมาก เนื่องจากกิ่งมีขนาดเล็กมาก เมื่อตอนแลวกิ่งจะหัก

Powered by