Quarter 4/2014

“รถดูบส ๘ คัน ที่กรมรถไฟสั่งซื้อเขามาใชตั้งแตป ค.ศ. ๑๘๙๓ มีอยูสองแบบ แบบหนึ่งใชลอแบบ ๒-๔-๐ คือมีลอนำ ๒ ลอ ลอกำลัง ๔ ลอ ไมมีลอตามนั้นเปน รถจักรไอน้ำชนิดมีถังบรรจุน้ำในตัว ใชสำหรับลากจูง ขบวนรถโดยสารเพราะทำความเร็วไดสูงกวา สวนอีก แบบหนึ่งมีจำนวนสี่คันเทากันนั้น เปนรถจักรไอน้ำแบบ ลอ ๐-๖-๐ ที่ตองมีการบรรทุกน้ำตางหากเปนรถจักร สำหรับลากจูงขบวนรถสินคาเพราะแลนชาแตมีกำลังฉุด ลากสูงกวา ”รถจักรไอน้ำรุนแรกทั้ง ๘ คันนื้ ไดรับหมายเลข ตั้งแต ๑ ถึง ๘ ตามลำดับ จึงจะนาสันนิษฐานวาคงจะ ใชรถจักรไอน้ำ “ดูบส ๒-๔-๐” หมายเลข ๑ ในการ ลากจูงขบวนรถไฟพระที่นั่งในพระราชพิธี “ปฐมฤกษ รถไฟหลวง” เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๔๓๙ “ปจจุบันไมมีรถจักรไอน้ำแหงเกียรติภูมิ “ดูบส” ไมวาคันไหนหรือแบบไหนหลงเหลือใหเห็น “ทั้งหมดคือจุดเริ่มตนของการพัฒนายานยนตสอง อยางที่เริ่มมีในประเทศไทย ไดแก รถรางที่ใชไฟฟาเปน พลังงานและรถจักรที่ใชไอน้ำเปนพลังงาน และยังมี พลังงานอื่นมาเสริม พลังงานที่วานี้คือน้ำมันซึ่งชาติ ตะวันตกรูจักนำมาใชเกือบจะเปนเวลาเดียวกันกับที่รูจัก พลังงานไอน้ำ สยามรูจักน้ำมันตั้งแตป พ.ศ.๒๔๓๗ เมื่อบริษัท socony (บริษัทแสตนดารดออยลแหงนิวยอรก) จากสหรัฐอเมริกา มาตั้งที่ทำการอยูที่ตรอกกัปตันบุช ขายน้ำมันกาด ตราไก และตรานกอินทรี และมีผลิตภัณฑ หลอลื่นสำหรับเครื่องจักรไอน้ำในโรงสีขาว

“จนถึงป พ.ศ.๒๔๓๙ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุล- จอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ ๕ ทรงโปรดเกลาฯ ใหเปด การเดินรถไฟที่เรียกวา “ปฐมฤกษรถไฟหลวง” ในเสนทาง สายแรกคือ กรุงเทพฯ-อยุธยา ในการนี้หัวรถลากใน ครั้งแรกใชพลังงานไอน้ำดังไดกลาวมาแลว ผูแทนบริษัท socony ไดเสนอน้ำมันหลอลื่นที่ใชกับเครื่องจักรใน โรงสีขาวมาทดลองใชกับรถจักรไอน้ำรุนแรกๆ ของ กรมรถไฟหลวง (ร.ฟ.ล.) จนถึงป พ.ศ.๒๔๖๓ จึงไดสั่ง น้ำมันเครื่องที่ใชกับรถจักรไอน้ำโดยเฉพาะมาขายแก กรมรถไฟหลวง”

Powered by