หมู กุ ฎี และหอสวดมนต : กั บจิ ตรกรรมล้ ำค าที่ ซ อนเร น
ด านนอกมุ ขผนั งหน า เป นที่ ประดิ ษฐานรู ปเคารพ พระศรี อริ ยเมตตรั ย พระอนาคตพุ ทธเจ า ที่ ทำเป น พระพุ ทธรู ปมี พระเศี ยรโล น ทรงถื อตาลป ตร ส วนผนั ง มุ ขนอกด านหลั งประดิ ษฐานรู ปพระศรี ศากยมุ นี พระพุ ทธเจ าองค ป จจุ บั น วิ หารน อย เป นอาคารขนาดเล็ กทรงสี่ เหลี่ ยมผื นผ า มี มุ ขต อยื่ นด านหน า ในขณะนี้ มี พระพุ ทธรู ปปางไสยาสน ขนาดเล็ กเป นประธานของอาคาร มี ประวั ติ ว า เจ าจอม มารดามรกฎได บู รณะวิ หารนี้ อี กครั้ งหนึ่ ง เมื่ อป พ.ศ. ๒๔๕๖ และป จจุ บั นทางวั ดได บู รณะวิ หารน อยนี้ ขึ้ นใหม แล ว ด านหลั งของอุ โบสถ เป นที่ ตั้ งของเจดี ย ขนาดใหญ ที่ สุ ดของวั ดเสาธงทอง ลั กษณะเป นเจดี ย ที่ ตั้ งบนฐาน ไพที ซ อนสองชั้ น ชั้ นแรกมี เจดี ย บริ วาร ๘ องค และชั้ น ที่ สองมี เจดี ย บริ วาร ๔ องค รวม ๒ ชั้ น เป น ๑๒ องค เมื่ อรวมกั บเจดี ย ประธานจึ งรวมเป นเจดี ย ๑๓ องค อั นตรงกั บธุ ดงควั ตร ๑๓ ประการของภิ กษุ สงฆ ชาวบ าน จึ งเรี ยกพระเจดี ย องค นี้ ว า “พระธุ ตั งคเจดี ย ” ลั กษณะของเจดี ย ประธาน เป นเจดี ย ย อมุ มไม ยี่ สิ บ เริ่ มต นจากฐานไพที ต อด วยฐานแข งสิ งห ซ อนสามชั้ น จึ งต อด วยมาลั ยลู กแก วอกไก และทรงระฆั งไม ยี่ สิ บ ส วนยอดเป นบั ลลั งก ปล องไฉนแบบบั วกลุ ม และปลี ยอด ตามลำดั บ ส วนเจดี ย บริ วารคล ายกั บเจดี ย ประธาน แต เป นเจดี ย ย อมุ มไม สิ บสอง และลดฐานแข งสิ งห ลง เหลื อเพี ยงชั้ นเดี ยว เจดี ย องค นี้ ถื อได ว ามี สั ดส วนที่ งดงามลงตั ว ประกอบกั บการที่ มี เจดี ย บริ วารที่ ซ อนลดหลั่ นกั นขึ้ นไป ทำให องค เจดี ย ดู มี ความเพรี ยวสู ง และงดงามมาก จนถื อได ว าเป นเจดี ย ย อมุ มไม ยี่ สิ บที่ มี ความงดงามที่ สุ ด ในเขตอำเภอปากเกร็ ด หรื อแม กระทั่ งในเขตของจั งหวั ด นนทบุ รี ก็ ว าได เมื่ อพิ จารณาจากสั ดส วนและการออกแบบเจดี ย องค นี้ สั นนิ ษฐานได ว า เจดี ย องค นี้ น าจะสร างขึ้ นในสมั ย อยุ ธยาตอนปลาย หรื อรั ตนโกสิ นทร ตอนต น กล าวคื อ น าจะสร างขึ้ นในครั้ งสมั ยแรกเริ่ มของการสร างวั ดนั่ นเอง พระธุ ตั งคเจดี ย : เจดี ย ย อมุ มไม ยี่ สิ บที่ งดงามที่ สุ ดของเกาะเกร็ ด
หมู กุ ฎี และหอสวดมนต ของวั ดเสาธงทอง มี ประวั ติ เล ากั นว า สร างขึ้ นเมื่ อราว ป พ.ศ.๒๔๕๖ โดยพระอุ ดม ญานมุ นี และขุ นเทพภั กดี (สง จารุ สั งข ) ร วมกั นสร างขึ้ น เพื่ อถวายให เป นเสนาสนะสมบั ติ ของวั ดแห งนี้ ลั กษณะ ของอาคารบริ เวณด านข างและด านหลั งทำเป นหมู ห อง กุ ฎี กั้ นอยู โดยรอบ ด านหน าทำเป นมุ ขยื่ นและซุ มประตู ทางเข า ตรงกลางทำเป นห องโถงใหญ ยกพื้ นสู งขึ้ นจาก พื้ นลานกุ ฏิ โดยรอบ ป จจุ บั นใช เป นหอสวดมนต ของ ทางวั ด สิ่ งสำคั ญของอาคารหลั งนี้ คื อ บริ เวณห องกลาง ของหอสวดมนต ที่ กั้ นเป นห องลู กกรงขนาดเล็ ก เพื่ อใช เก็ บรั กษาพระพุ ทธรู ปองค สำคั ญของทางวั ด มี ผนั งไม กั้ นสู งคล ายลั บแลอยู ที่ ผนั งสกั ดหลั ง บนฝาผนั งนี้ มี จิ ตรกรรมเขี ยนเอาไว อย างงดงาม โดยเขี ยนเป นภาพ พระพุ ทธรู ปยื นปางแสดงธรรมทั้ งสองข างและตรงกลาง เป นเรื่ องราวเหตุ การณ ในพุ ทธประวั ติ ตอนที่ พระพุ ทธองค ทรงเสวยวิ มุ ตติ สุ ขทั้ ง ๗ สั ปดาห หรื อที่ เรี ยกกั นว า “สั ตตมหาสถาน” จิ ตรกรรมชุ ดนี้ มี ความสวยงามยิ่ ง โดยเมื่ อพิ จารณาจากลั กษณะทางศิ ลปกรรมแล ว สั นนิ ษฐานว า น าจะเขี ยนขึ้ นในสมั ยรั ชกาลที่ ๔-๕ เป นต นมา อย างไรก็ ตาม ภาพจิ ตรกรรมดั งกล าวมิ ได เป ด ให เข าไปชม เนื่ องจากบริ เวณดั งกล าวใช เก็ บรั กษา พระพุ ทธรู ปสำคั ญเอาไว ทางวั ดหวั่ นเกรงในเรื่ องของ ความปลอดภั ย จึ งไม อนุ ญาตให เข าชม ซึ่ งนั บเป นสิ่ งที่ น าเสี ยดายยิ่ ง
อรุ ณศั กดิ์ กิ่ งมณี จบการศึ กษาปริ ญญาตรี และโท จากคณะโบราณคดี มหาวิ ทยาลั ยศิ ลปากร
สนใจเป นพิ เศษเกี่ ยวกั บเรื่ องเทพฮิ นดู รวมถึ งประติ มานวิ ทยา ของพุ ทธและฮิ นดู ป จจุ บั นรั บราชการตำแหน งนั กโบราณคดี ชำนาญการพิ เศษ สำนั กศิ ลปากรที่ ๒ สุ พรรณบุ รี
Powered by FlippingBook